การ อบสมุนไพร หลังคลอด ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการอยู่ไฟหลังคลอด ซึ่งในอดีตนิยมทำกัน แต่ในปัจจุบันเมื่อวิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าขึ้น จึงเกิดคำถามขึ้นว่า การอยู่ไฟด้วยวิธีการอบสมุนไพรหลังคลอดนั้น ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ ดังนั้นเราจะมาตอบข้อสงสัยของคุณกัน

การ อบสมุนไพร จากอดีตถึงปัจจุบัน

เมื่อการตั้งครรภ์ทำให้ร่างกายของคุณแม่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งภูมิปัญญาไทยเห็นว่า เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังคลอดให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว จึงได้คิดค้นวิธีการอยู่ไฟ หรือการอบสมุนไพร โดยการใช้ความร้อนเข้าช่วย ทำให้ช่วยลดอาการปวดเมื่อย และเลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ส่วนในปัจจุบันวิธีการอยู่ไฟได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับยุคสมัยมากขึ้น ทั้งการนวดประคบ การอาบน้ำสมุนไพร การดื่มน้ำสมุนไพร ทับหม้อเกลือ  รวมทั้งการอบสมุนไพรด้วย

ขั้นตอนการ อบสมุนไพรหลังคลอด

การการอบสมุนไพร คือวิธีที่นิยมทำกัน โดยใช้สมุนไพรนานาชนิด ได้แก่ มะกรูด ตะไคร้ ไพร ขมิ้นชัน ผักบุ้งแดง หัวหอมแดง การบูร พิมเสน ใบส้มเสี้ยว ใบส้มป่อย และสมุนไพรอื่นๆ โดยมีขึ้นตอนดังต่อไปนี้

1.นำสมุนไพรดังกล่าวใส่ลงในหม้อน้ำแล้วนำไปต้มให้เดือด ซึ่งเมื่อคุณแม่ได้สูดดมสารระเหย หรือเมื่อสมุนไพรได้ซึมผ่านผิวหนังจะทำให้ร่างกายของคุณแม่ฟื้นฟูเร็วขึ้น โดย มะกรูด ตะไคร้ จะช่วยให้ระบบทางเดินหายใจคล่องขึ้น ส่วนไพร ก็จะช่วยลดอาการปวดเมื่อย เป็นต้น

2.ยกหม้อต้มสมุนไพรที่น้ำเดือดดีแล้วไปวางไว้ในกระโจม

3.ให้คุณแม่เข้าไปนั่งภายในกระโจม โดยวางหม้อไว้ตรงหน้า เผยอปากหม้อเล็กน้อย เพื่อให้ได้รับกลิ่นหอมจากสมุนไพร

4.ใช้เวลาในการอบประมาณ 15 นาที เมื่อครบกำหนดแล้วก็ให้รอจนร่างกายแห้งแล้วจึงค่อยอาบน้ำ

อบสมุนไพร ขับสารพิษ

การอบสมุนไพร จำเป็นหรือไม่

ด้วยปัจจุบันการแพทย์มีความทันสมัยขึ้น เช่น มียาช่วยหยุดเลือด มียาช่วยกระตุ้นน้ำนม ส่วนมดลูกนั้นโดยธรรมชาติจะเข้าอู่เองได้ภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอด แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำว่าไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องอบสมุนไพรหลังคลอด แต่ได้แนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังคลอดสำหรับคุณแม่ เช่น ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเบาๆ ฝึกขมิบช่องคลอดแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคุณแม่ท่านไหนต้องการอบสมุนไพร แพทย์แผนไทย เพราะเห็นถึงประโยชน์ต่างๆ ก็สามารถทำได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือเป็นแผล รวมทั้งคุณแม่ที่ผ่าคลอดด้วย

ประโยชน์ของการอบสมุนไพร

ถึงแม้ว่าแพทย์จะแนะนำว่า ไม่มีความจำเป็นต้องอบสมุนไพร แต่การอบสมุนไพรหลังคลอด ก็มีประโยชน์ต่อคุณแม่ได้น้อย เช่น

1.ช่วยลดน้ำหนัก เพราะความร้อนจากการอบสมุนไพรจะทำให้เหงื่อออก และส่งผลให้น้ำหนักลดลง

2.ขับของเสีย โดยความร้อนจาการอบสมุนไพรช่วยทำให้รูขุมขนเปิด จึงสามารถขับเหงื่อและของเสียออกจากร่างกายผ่านทางรูขุมขนได้

3.บำรุงผิวพรรณ การอบสมุนไพร นอกจากจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายแล้ว สมุนไพรที่ใส่ลงในหม้อ เมื่อซึมเข้าสู่ร่างกาย ยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย

4.ทำให้เลือดลมหมุนเวียนดี เนื่องจากระบบการไหลเวียนของเลือดถูกกระตุ้น และยังช่วยขับน้ำคาวปลาที่ค้างอยู่ภายในร่างกายด้วยเช่นกัน

5.สร้างความผ่อนคลายได้ดี โดยคุณแม่จะรู้สึกผ่อนคลายจากการสูดดมสมุนไพรต่างๆ ที่มีฤทธิ์แตกต่างกัน  เช่น การบูรช่วยทำให้รู้สึกหายใจสดชื่นขึ้น ขมิ้นชันช่วยลดอาการขัดยอก และผักบุ้งช่วยบำรุงสายตา เป็นต้น

Sponsored

6.น้ำนมไหลดีขึ้น เมื่อคุณแม่รู้สึกผ่อนคลาย ระบบเลือดหมุนเวียนได้ดี น้ำนมของคุณแม่ก็จะไหลได้ดีขึ้น ทำให้มีน้ำนมเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อย

การอบหรืออยู่ไฟหลังคลอด

เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับการอบสมุนไพร

เรามาดูเรื่องน่ารู้ ที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ก่อนจะอยู่ไฟกันบ้างดีกว่า ซึ่งก็เป็นข้อมูลดีๆ ที่จะมองข้ามไม่ได้เลย

การอบสมุนไพรหลังคลอด ทำได้กี่วิธี

โดยหลักๆ ที่นิยมทำกัน ก็จะมี 5 วิธี ได้แก่

  1. การอาบสมุนไพร โดยจะนำสมุนไพรมาต้ม แล้วผสมกับน้ำให้คุณแม่อาบ
  2. เข้ากระโจม ซึ่งวิธีนี้จะมีการทำกระโจมไว้ แล้วนำสมุนไพรไปต้มในกระโจม จากนั้นให้คุณแม่เข้าไปนั่งอยู่ในกระโจมจนครบเวลาที่กำหนด
  3. อบไอน้ำสมุนไพร โดยวิธีนี้คุณแม่จะต้องเข้าไปอยู่ในห้องที่เตรียมไว้ และจะมีการต่อท่อจากไอน้ำสมุนไพรเข้าไป
  4. ประคบด้วยสมุนไพร ซึ่งจะนำสมุนไพรที่คลุกรวมกันและผ่านความร้อนแล้ว มาประคบตามส่วนต่างๆ ของร่างกายนั่นเอง
  5. ทับหม้อเกลือ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูร่างกายคุณแม่หลังคลอดได้ดีเช่นกัน

ควรทำหลังคลอดลูกไปแล้วกี่วัน

การอบสมุนไพร ควรทำหลังจากคลอดลูกแล้วประมาณ 7 วัน แต่ถ้าเป็นการคลอดด้วยการผ่าคลอด อาจต้องรอให้แผลเริ่มหายดีก่อน ซึ่งก็คือประมาณ 4-6 สัปดาห์นั่นเอง ทั้งนี้หากไม่แน่ใจว่าทำได้หรือยัง ก็แนะนำให้ปรึกษาหมอดูก่อนจะดีกว่า

ขณะทำให้นมลูกไปด้วยได้หรือไม่

ขณะที่คุณแม่กำลังอยูไฟ ไม่ควรพาลูกเข้าไปในบริเวณ เพราะความร้อนอาจส่งผลอันตรายต่อลูกน้อยได้ ดังนั้นหากลูกร้องหิวนม คุณแม่ควรออกมาให้นมลูกข้างนอก เมื่อให้ลูกดื่มนมจนอิ่มแล้ว จึงค่อยกลับเข้าไปอบต่อนั่นเอง ทั้งนี้ควรมีคนมาช่วยดูแลลูกขณะทำการอบสมุนไพรด้วย เพราะบางทีคุณแม่อาจไม่ค่อยสะดวกลุกไปมามากนัก

ถ้ามีไข้ ตัวร้อน ควรทำอย่างไร

ในกรณีที่คุณแม่มีไข้ ตัวร้อน ต้องงดการอบสมุนไพรไปก่อน เมื่อหายแล้วจึงค่อยกลับมาอบต่อ ซึ่งหากฝืนทำในขณะที่มีไข้ อาจจะเป็นอันตรายได้

โรงพยาบาลไหน มีบริการแพทย์แผนไทยหลังคลอด

สำหรับคุณแม่ที่ไม่สะดวกทำด้วยตนเอง ก็สามารถใช้บริการแพทย์แผนไทยสำหรับคุณแม่หลังคลอด ตามโรงพยาบาลที่เปิดให้บริการได้ ยกตัวอย่างเช่น

โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์

ในยุคปัจจุบันการเลือกที่จะอบสมุนไพรหลังคลอดหรือไม่นั้น ก็ควรดูที่ความเหมาะสมและความสะดวกของคุณแม่แต่ละท่าน ซึ่งถ้าคุณแม่ท่านไหนไม่มีเวลาจริงๆ ก็สามารถดูแลตัวเองดัวยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และฝึกทำจิตใจให้ผ่อนคลายแทนได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่ฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดได้ดีเช่นกัน

= = = = = = = = = = = =

ติดตามความรู้ดี ๆ  และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/

We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook

https://www.facebook.com/teamkonthong/

บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..

1.รวม ชื่อเกาหลี สุดฮิต ตั้งชื่ออะไรดีให้โดนใจลูกน้อย

2.วิธีตั้งชื่อลูก กับ 7 เรื่อง ที่พ่อแม่ต้องรู้และเข้าใจ