เลี้ยงลูกให้ไกลโรคอ้วน การเลี้ยงลูกนั้นผู้ปกครองควรเข้าใจปัญหาในด้านต่างๆ และที่สำคัญนั้นควรมองถึงอนาคตของลูกว่าจะมีผลข้างเคียงตามมาหรือไม่โดยเฉพาะกับการกินอาหาร ที่ส่งผลกระทบในเรื่องของน้ำหนักตัวของเด็กที่มากเกินไปจนกลายเป็นเด็กที่อ้วนมาก
ดังนั้นบทความของเราในวันนี้จะมาแนะนำถึงวิธีการเลี้ยงลูกให้ถูกวิธีและมีสุขภาพดี แข็งแรงสมบูรณ์สมกับวัยของเด็กๆ กัน
เราอาจเคยได้ยินคำพูดของคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยายว่า เด็กๆ นั้นอ้วนไม่เป็นไรเพราะเมื่อโตขึ้นตัวจะยืดก็จะทำให้ความอ้วนนั้นลดลง แต่ในความเป็นจริงแล้วเด็กที่อ้วนมากส่วนใหญ่จะยังคงอ้วนอยู่จนกลายเป็นผู้ใหญ่ และยากที่จะทำการควบคุมในเรื่องของน้ำหนักทำให้ส่งผลต่อสุขภาพในด้านอื่น ๆ เสี่ยงต่อสารพัดโรค ทั้งยังนอนกรนเสียงดัง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันสูง ขาโก่ง และกาง นอกจากนี้เด็กยังมีความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCD (Non-Communicable Disease) ในวัยผู้ใหญ่อีกด้วย
ซึ่งจากปัญหาเหล่านี้เองทำให้ รศ.พญ.ลัดดา เหมาะสุวรรณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลสำหรับ “วิธีการเลี้ยงลูกอย่างไรให้ไกลโรคอ้วน” ดังนี้
วิธีการ เลี้ยงลูกให้ไกลโรคอ้วน ทำอย่างไร…
- ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นมแม่สามารถป้องกันโรคอ้วนได้ เด็กที่กินนมแม่นั้นเมื่อเติบโตขึ้นมีอัตราการเป็นโรคอ้วนต่ำกว่าเด็กที่ไม่กินนมแม่ เพราะมีมวลไขมันสะสมภายในร่างกายน้อยกว่า และยังควบคุมการกินอาหารได้ดีกว่าในเด็กที่เลี้ยงด้วยนมขวด ควรให้หย่านมขวดที่อายุประมาณ 1 ขวบและต้องเลิกให้ได้หลังขวบครึ่ง เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นฝึกให้เด็กดื่มนมจืด ไม่ควรให้ติดนมหวานหรือนมเปรี้ยวที่มีเนื้อนมเพียงครึ่งเดียวแต่อุดมไปด้วยน้ำตาล
- ไม่ควรส่งเสริมให้ลูกกินขนมซอง หรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน โดยเฉพาะน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้กระป๋อง และขนมจุบจิบ เพราะส่วนใหญ่แล้วขนมซองมีไขมันและน้ำตาลสูง อาหารว่างควรมีอาหารหลายหมู่ เลี้ยงอาหารว่างจำพวกแป้ง ไขมัน หรือน้ำตาล อ่านฉลากโภชนาการควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของเกลือโซเดียม น้ำตาล และไขมันต่ำ ไม่ใช้อาหารสินบน หรือรางวัลสำหรับพฤติกรรมที่ต้องการ ไม่เก็บตุนขนมหรือเครื่องดื่มเอาไว้ภายในบ้าน
- สร้างวินัยในการกิน ควรฝึกให้เด็กกินอาหารมื้อเช้าที่มีคุณค่าโภชนาการสูงเป็นประจำทุกวันจนเป็นนิสัย ลดการกินอาหารนอกบ้าน และควรกินอาหารพร้อมหน้ากันทั้งพ่อ แม่ และลูก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ควรฝึกให้กินอาหารเป็นเวลา ตักอาหารให้พอดี เคี้ยวอาหารให้ละเอียดและกินพอดีอิ่ม
- ควรปลูกฝังให้กินอาหารที่มีกากใยสูง และมีปริมาณไขมันต่ำ เช่นการส่งเสริมให้กินผัก ผลไม้ เป็นประจำทุกวัน กินปลาและไข เป็นหลัก เลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อย่างเช่น กากหมู หนังไก่ หนังหมู มันหมู หรืออาหารจำพวกทอดจนกรอบหรือไหม้เกรียม
- ให้ค่าขนมกับเด็กตามความเหมาะสม ไม่ควรให้เงินค่าขนมมากเกินไป โดยเฉพาะเด็กอนุบาลที่ไม่สามารถตัดสินใจเลือกซื้อขนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการได้ หรือเด็กที่โรงเรียนมีการจัดอาหารกลางวันฟรี ก็ควรเอาเงินไปโรงเรียนให้น้อยลง ไม่ควรให้เด็กซื้อขนมเงินเชื่อ โดยหยิบมาก่อนแล้วผู้ใหญ่มาจ่ายให้ในภายหลัง จะเป็นโอกาสให้เด็กเลือกขนมโดยไม่มีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำ และไม่ได้ฝึกวินัยการใช้เงิน
- ส่งเสริมให้เด็กมีการออกกำลังกายเป็นประจำจนเป็นนิสัย ฝึกให้มีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน เพราะการออกกำลังกายนั้นทำให้ความจำดี คิดคำนวนได้เก่งขึ้น การส่งเสริมให้เด็กได้เล่นกีฬาตามความถนัด ทำให้เด็กได้เรียนรู้กฏกติกา และการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น เพิ่มโอกาสของการทำกิจกรรมทางกาย เช่น การเดิน ขี่จักรยาน แทนการนั่งรถไปโรงเรียนหรือสถานที่ต่าง ๆ ในละแวกบ้าน เดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์หรือการขึ้นบันไดเลื่อน สอนให้เด็กช่วยทำงานบ้านที่เหมาะสมกับอายุ อย่างเช่น การรดน้ำต้นไม้ ทิ้งขยะ ตากหรือพับเสื้อผ้า เพื่อเป็นการฝึกความรับผิดชอบเป็นต้น
- มีกำหนดกิจกรรมหน้าจอ ไม่ควรปล่อยให้เด็กหมกมุ่นอยู่กับกิจกรรมหน้าจอแบบแน่นิ่ง เช่นการดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต หรือเล่นเกมส์ เพราะเด็กมักชอบกินขนมจุกจิก และน้ำอัดลมร่วมอยู่ด้วย เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปควรใช้เวลาอยู่หน้าจอไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง ส่วนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปีไม่แนะนำให้ดู
- ควรฝึกให้เข้านอนพักผ่อนตั้งแต่หัวค่ำ เพราะเด็กควรได้รับการนอนพักอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนแล้ว ยังส่งผลให้เด็กมีสมองที่แจ่มใส มีความจำดี สดชื่น พร้อมที่จะเรียนรู้ได้เป็นอย่างดีในทุก ๆ วัน
จากคำแนะนำทั้งหมดนี้นับเป็นข้อคิดและแนวทางที่ดีสำหรับการดูแลเด็กเพื่อป้องกันปัญหาโรคอ้วน จนไม่สามารถควบคุมได้ เพราะพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับการปลูกฝังเอาไว้ตั้งแต่เด็กนั้นจะส่งผลให้เด็กได้ฝึกจนเป็นนิสัยติดตัวในช่วงวัยรุ่นและเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะกลายเป็นเกราะป้องกันปัญหาโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้กับเด็กในอนาคต เพราะปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดจากพฤติกรรมในวัยเด็ก
อย่างไรก็ตามควรให้ความใส่ใจในเรื่องของการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่และการดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้ลูกรักของเรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ และพร้อมสำหรับการเรียนรู้ในแต่ละวันต่อไป
= = = = = = = = = = = =
ติดตามความรู้ดี ๆ และสาระดี ๆ เพิ่มเติม สำหรับแม่ตั้งครรภ์ และลูกน้อย ได้ที่ www.konthong.com หรือ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ได้ที่
https://www.facebook.com/teamkonthong/
We promise to provide the knowledge and know-how for new mom. More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don’t forget to follow and keep in touch with us on Facebook
https://www.facebook.com/teamkonthong/
บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย …..